Bromo Kawaijen one time in my life

รู้หรือไม่ประเทศในแถบเอเชียที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาไฟที่สุด แน่นวลคงจะเป็นที่ไหนไม่ได้ " อินโดนีเซีย " . . . วันนี้เรามีโอกาศได้ไปเยือนภูเขาไฟที่ดับแล้ว แต่ยังไม่สนิทสักทีเดียวนะแกร (แอบน่ากลัวมั้ยละฮ่าๆ) " BROMO " นั้นตั้งอยู่เมืองสุราบายานั้นเอง แต่การจะผ่าฝูงชนออกจากในเมืองมาที่นี่ได้นั้นลำยากยิ่งหนักและอีกหนึ่งสถานที่ในรูทนี้คือ " KawaIjen "จุดเด่นของที่นี่ก็คือ เพลิงสีน้ำเงิน หรือที่เค้าเรียกกันกว่า Blue frame ซึ่งมีไม่ก็ที่ในโลกนี้นะแกร วันนี้เราเลยอยากจะขอเหล้า(แปปคนละเหล้าละฮ่าๆ) เล่าบอกต่อประสบการณ์ว่าควรเตรียมตัวมายังไงและทำไมในชีวิตนี้ต้องมาเห็นที่นี่ด้วยตาเปล่า เอ้าเขาไปดูกันเร๊ววววว

๑.การมาเที่ยวที่นี่จริงแล้วใช้เวลาแค่ 3 วัน 2 คืนได้ก็สามารถเก็บสองภูเขานี้ได้แล้ว แต่มันจะเหนื่อยหน่อยๆ แนะนำให้ 3 คืนดีกว่า ฮ่าๆ

๒.ควรมาเป็นหมู่คณะ ซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเหมาทัวร์ได้มากกก

๓.ควรวางแพลนมาอย่างดีและเวลาที่เป๊ะเพราะแต่ละสถานที่นั้นไกลกันและการจราจรประเทศนี้อย่างกะพี่น้องสี่แยกลาดพร้าวหลังเลิกงานเลยแหละ

๔.การแลกเงินควรแลกเงิน US ที่ไทยแล้วมาแรกเป็นรูปที่ประเทศนี้จะได้เลตที่ดีกว่าแลกรูเปียที่ไทย แต่ใครมีเวลาน้อยแนะนำให้แลกมาเลยจะได้ไม่เสียเวลาหาร้านแลก

๕.อาหารที่นี่รสชาติจะหวานนำ แห้งโดยเฉพาะข้าวผัด แนะนำให้หาร้านดีๆ แต่เรื่องราคาหายห่วงเพราะพอๆกับบ้านเราเลย

๖.ใครอยากขี่ม้าที่โบรโม่สามารถบอกไกด์ได้ราคาจะอยู่ที่ 150,000 รูเปียไปกลับ

๗.ควรมานอนที่โบรโม่สักคืนเพราะตอนเช้าทะเลหมอกสวยมากกกก ควรแพลนมาดีๆและคุยกับไกด์ให้ดีเลยย

๘.จากโบรโม่ไปอีเจี้ยนนั่งรถไกลมากกกกควรนอนเก็บแรงไว้เยอะๆ

๙. อีเจี้ยนควรเริ่มเดินไม่เกินตี 2 เพราะใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อดู Blue frame (ตีสี่ครึ่งพระอาทิตย์จะเริ่มขึ้น blue frame ก็จะหายไป ) และใครเดินไม่ไหวไม่ต้องเป็นห่วงที่นี่มีบริการแท็กซี่เข็นขึ้นภูเขาฮ่าๆๆ ราคาจะอยู่ 5-7แสนรูป

๑๐. สุดท้ายทะเลสาปสีเขียวมรกตบนอีเจี้ยนไม่สามารถลงเล่นได้นะ เพราะมีกรดซัลฟูริคจร ลงไปตายแน่นวลลลฮ่าๆ

สุดท้ายเราขอแนะนำว่าควรไปเห็นด้วยตาเปล่าสักครั้งในชีวิตนะแกรมันดีต่อใจมากจริง